1. สะพานอัษฎางค์
ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชสถาน ซึ่งเป็นพระราชวังบนเกาะแห่งเดียวในประเทศไทย พระราชฐานแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่ประทับเพื่อผ่อนคลายอริยาบทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์
2. ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
ในปี พ.ศ. 2426 มีชาวจีนได้ค้นพบหินงอกหินย้อย มีลักษณะเป็นรูปเจ้าพ่อที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และหันไปทางทิศตะวันออก ซึ่งมีน้ำอยู่ด้านหน้าตรงตามตำราจีนโบราณ ซึ่งเชื่อถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มหัศจรรย์ควรแก่การเคารพนับถือในช่วงตรุษจีนจะมีคนมากราบไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่กันยังอย่างเนืองแน่น
3. รอยพระพุทธบาทจำลอง
เมื่อ พ.ศ. 2435 พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นดำรงราชานุภาพ ได้นำรอยพระพุทธบาทจำลองจากประเทศอินเดียมาถวาย เป็นที่เฉลิมพระราชศรัทธา ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญรอยพระพุทธบาทจำลองนั้นขึ้นไปประดิษฐานณ ไหล่เขายอดพระจุลจอมเกล้าเจ้า
4. ช่องอิศริยาภรณ์
ที่แห่งนี้ตั้งตามพระนามของพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าอิศริยาภรณ์ พระโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดา หม่อมราชวงศ์เกสร ช่องอิศริยาภรณ์อยู่ทางด้านหลังของเกาะสีชังมีลักษณะเป็นช่องเขาที่ขาดออกจากกัน และเป็นหน้าผาสูง ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมาก
5. ศิลาจารึก
ได้สร้างขึ้นโดยมีพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์เจ้าโสณบัณฑิต เป็นนายกำกับการจาริก ศิลาจารึกนี้สามารถบอกเล่าประวัติความเป็นมาสมัยปัจจุบันที่รัชกาลที่ 5 เมื่อพระองค์เจ้าเสด็จประทับบนเกาะสีชังในพ.ศ. 2434 ศิลาจารึกตั้งอยู่ใกล้กลับโรงเรียนเกาะสีชัง
6. พระเหลือง
สามารถมองเห็นได้ง่ายเพราะเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเชิงเขาชาวเกาะสีชัง นิยมเรียกชื่อพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระเหลือง ซึ่งมีชื่อเป็นทางการว่าหลวงพ่อศรีสุขมหาจักรเพชร ปัจจุบันพระเหลือประดิษฐานอยู่ในบริเวณใกล้กับถ้ำจักรพงษ์ ที่ถูกค้นพบโดยพระบาทสมเด็จพระพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจักรพงศ์ภูวนาถ
7. หาดถ้ำพัง
ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะสีชัง เป็นชายหาดขาวกว้างสะอาด และสวยงามความยาวประมาณ 160 เมตร มีทรายละเอียด น้ำใสสะอาด เหมาะกับการเล่นน้ำ บริเวรชายหาดมีร้านค้าและบริการให้กับนักท่องเที่ยวและนอกจากนี้ยังมีหน้าผาหินที่งดงาม และสามารถชมวิวทิวทัศน์จากมุมสูงได้อีกด้วย