ตะลุยกิน 20 ร้านอร่อย เยาวราช Chinatown | ออกเดินทาง

โดย

-

กุมภาพันธ์ 10, 2021

ร้านอร่อย เยาวราช — ร้านอาหารอร่อย เยาวราช

วันนี้ออกเดินทาง ขอแปลงร่างเป็นอาเฮีย ให้เข้ากับเทศกาลตรุษจีน ด้วยการใส่เสื้อสีแดง แล้วไปหาอะไรอร่อย อร่อย กินกันที่เยาวราช วิธีการเดินทางมาที่เยาวราชก็แสนจะสะดวกและสบาย สามารถใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน แล้วลงที่สถานีวัดมังกร เลือกออกทาง Exit 1 แค่นี้เราก็ได้มาลิ้มลองรสชาติอาหารอร่อยๆ กันที่ Chinatown แล้วครับ
เอาเป็นว่า ไม่ต้องรอช้า ออกเดินทาง ของแจกพิกัด ร้านอาหารอร่อย 20 ร้านที่เยาวราช Chinatown กันเลยแล้วกันครับ ให้เพื่อนๆ ไปกินกันให้พุงกางเลยครับ จะมีร้านไหนบ้างตามมาดูกันเลยครับ

:: 1. ก๋วยจั๊บอ้วนโภชนา ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/EqepAYMuXq2chkjb8
ร้านเปิดบริการ : 18.00 – 03.00 น.

:: 2. บะหมี่มังกรขาว ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/Zm9zpDRoZ1Kwn3Eh8
ร้านเปิดบริการ : 18.00 – 23.00 น. (หยุดวันจันทร์)

:: 3. เล่าลี่ หูฉลาม ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/odN2a9E1Z7nDM7ND9
ร้านเปิดบริการ : 10.00 – 23.00 น.

:: 4. ผัดไทยโอเค ตลาดเก่าเยาวราช ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/yMAqMujwpMJni65K9
ร้านเปิดบริการ : 17.30 – 23.00 น. (หยุดวันจันทร์)

:: 5. T&K Seafood Restaurant ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/d2q8ynYbLBr8P6pw9
ร้านเปิดบริการ : 16.00 – 02.00 น.

:: 6. ยู้ ลูกชิ้นปลาเยาวราช ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/nYq9oZLYoC3yx7hVA
ร้านเปิดบริการ : 08.00 – 21.00 น

:: 7. ร้านป้าจิน หอยแครงลวก ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/mUtS49oJk2EuWn9e7
ร้านเปิดบริการ : 18.00 – 24.00 น. (หยุดวันจันทร์)

:: 8. หมูตุ๋น เอ็นตุ๋น น้ำแดงหม้อดิน ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/dmsxqpyLeZtT6cLp7
ร้านเปิดบริการ : 17.30 – 22.00 น. (หยุดวันจันทร์)

:: 9. ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/52M8WwWr9pYyCtAs8
ร้านเปิดบริการ : 18.00 – 24.00 น. (หยุดวันจันทร์)

:: 10. Sweet Time ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/HkBueHAzZTFbonUf9
ร้านเปิดบริการ : 18.00 – 01.30 น. (หยุดวันจันทร์)

:: 11. ครัวพรละมัย ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/GJfLrLExuxCwgZbCA
ร้านเปิดบริการ : 16.00 – 21.00 น. (หยุดวันจันทร์)

:: 12. น้องกาย & น้องเก้า ปลาหมึกย่าง ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/CkccySLUxY85q5Xg9
ร้านเปิดบริการ : 17.45 – 23.45 น. (หยุดวันจันทร์)

:: 13. ปาท่องโก๋เสวย เยาวราช ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/7T75ykztv27BCP7fA
ร้านเปิดบริการ : 18.00 – 23.00 น. (หยุดวันจันทร์)

:: 14. เจ๊ดาปูดอง เยาวราช ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/nj8nhLcH3qnrrJgK8
ร้านเปิดบริการ : 09.00 – 17.00 น. (หยุดวันจันทร์)

:: 15. บะหมี่จับกัง ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/vJcqwPZ8J2toJBLf6
ร้านเปิดบริการ : 08.00 – 18.00 น

:: 16. โอเดียน บะหมี่เกี๊ยว ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/DVKqEoQasbfXYvtC9
ร้านเปิดบริการ : 08.30 – 20.00 น.

:: 17. เซี้ยไชน่าทาวน์ (Xie Chinatown) ::
พิกัด : https://g.page/xiechinatown?share
ร้านเปิดบริการ : 16.30 – 00.30 น.

:: 18. Ba Hao Tian Mi (ปา เฮ่า เถียน มี่) ::
พิกัด : https://g.page/bahaotianmi?share
ร้านเปิดบริการ : 10.30 – 23.00 น.

:: 19. ลักตี๋ บะหมี่เกี๊ยวทะเล ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/mLqyhsaBTAE4PB6c8
ร้านเปิดบริการ : 07.30 – 14.30 น.

:: 20. ขนมหวานเกียเม้ง ::
พิกัด : https://goo.gl/maps/JfpeQCouDW5sSTGL9
ร้านเปิดบริการ : 07.30 – 15.30 น.

–
ฝากเพื่อนๆ ติดตามช่องทางอื่นๆ ด้วยนะครับ
Facebook : https://www.facebook.com/okdentang
YouTube : https://bit.ly/34xGVya
IG : https://www.instagram.com/okdentang
Twitter : https://www.twitter.com/okdentang
https://www.okdentang.com
แล้วเราจะ ” ออกเดินทาง ” ไปด้วยกันครับ

รีวิว พูนศิริ รีสอร์ท อ่าวนาง กระบี่ [Poonsiri Resort Aonang] | ออกเดินทาง

โดย

ออกเดินทาง

-

กุมภาพันธ์ 8, 2021

0

VDO รีวิว พูนศิริ รีสอร์ท อ่าวนาง กระบี่ Poonsiri Resort Aonang

สวัสดีเพื่อนๆ ออกเดินทางทุกคนครับ ออกเดินทางทริปนี้ จะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวจังหวัดกระบี่ แต่ความพิเศษของทริปนี้ คือ การมาพักผ่อนที่พูนศิริ รีสอร์ท อ่าวนาง กระบี่ Poonsiri Resort Aonang รีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โอบล้อมด้วยน้ำและขุนเขา เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง บอกได้คำเดียวว่า รีสอร์ทสวยมาก ๆ ห้องพักทุกห้องมีวิวสระน้ำสีมรกตที่สวยสุด ๆ ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย รับรองว่าเพื่อนๆ จะมีรูปปัง ๆ ไว้ลง Facebook และ IG แน่นอน

กิจกรรมในรีสอร์ท ได้แก่ พายเรือคายัค ว่ายน้ำ ฟิตเนสออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน ให้อาหารปลา และชมวิวธรรมชาติอันสวยงาม

เดี๋ยวเราไปชมบรรยากาศของรีสอร์ทกันดีกว่าครับว่าจะสวยจริงเหมือนที่ผมได้เกริ่นไว้หรือไม่ ไปกันเลย

แค่ด้านหน้าเราก็สามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติของรีสอร์ทแห่งนี้

พอเราเดินเข้ามาที่ด้าในของตัวรีสอร์ท ผมถึงกับต้องร้องว๊าว เพราะมันสวยงามมากจริงๆ

รีสอร์ทได้ออกแบบมาอย่างดี มีสระน้ำสีมรกตอยู่กลางรีสอร์ท ทำให้มีความสวยงามมากๆ

ความลงตัวของธรรมชาติ และสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นถือเป็นเสน่ห์ของที่นี่จริงๆ

สำหรับห้องพักของที่นี่ถูกออกแบบให้สามารถมองเห็นวิวสระน้ำสีมรกตได้ทุกห้อง เดี๋ยวเราไปดูห้องพักกันบ้างดีกว่าครับ

ห้องพักแบบแฟมิลี่ สำหรับห้องแบบแฟมิลี่จะมีทั้งหมด 2 ห้องนอน ครับ พักได้ทั้งหมด 4 ท่าน

ระเบียงห้องฟินสุด เพราะสามารถเห็นวิวสระมรกต และภูเขาหินปูนด้านข้างรีสอร์ทได้อย่างสวยงามและลงตัว

มีห้องน้ำขนาดใหญ่ และพิเศษสุดด้วยอ่างอาบน้ำเหมาะแก่การแช่ตัวฟินๆ

มีกาต้มน้ำร้อน และมีไมโคเวฟไว้ให้บริการด้วยครับ

และมีโต๊ะเล็กๆ สำหรับนั่งทานอาหารอีกด้วยครับ

ห้องพักแบบซูพีเรีย

โดยห้องพักแบบนี้จะมีทั้งเตียงเดี่ยว และเตียงคู่ จะมาแบบเพื่อน หรือแบบแฟนก็ได้ทั้งนั้นครับ

ระเบียงห้องก็ให้ความฟินสุดๆ เลยครับ เหมาะแก่การพักผ่อนที่แท้จริง

อุปกรณ์ใช้สอยในห้องก็ครบครันมากๆ

ห้องน้ำแยกสัดส่วนชัดเจน ดีงามที่สุด

ต่อมาเรามาพูดถึงเรื่องอาหารกันบ้าง โดยรีสอร์ทแห่งนี้จะจัดอาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ครับ ไปดูกันเลยครับ

อาหารเช้า
บุฟเฟ่ต์ ถือว่า โอเค มากๆ มีครบ ข้าวผัด ใส้กรอก ไข่ดาว ผัดผัก ขนมปัง ซีเรียล กาแฟ น้ำผลไม้ ผลไม้ และอื่นๆ

อาหารกลางวัน และอาหารเย็น
มาถึงเมนูอาหารกลางวันหรืออาหารเย็น กันบ้างครับ

ข้าวผัด พูนศิริ

สปาเก็ตตี้ พูนศิริ

พูนศิริ 4 Season

พูนศิริ เบอร์เกอร์

สุดท้ายเดี๋ยวเรามาดูกันว่ากิจกรรมของรีสอร์ท ของรีสอร์ทมีอะไรกันบ้าง

ใครสายปั่น ก็ปั่นจักรยาน รอบๆ รีสอร์ท

ใครสายน้ำ ก็พายเรือคายัค ชิวๆ ฟินๆ ถึงฝนจะตกแต่เราก็สนุกได้
หรือจะว่ายน้ำในสระก็ฟินไปอีกแบบ สระว่ายนำ้สวยมากครับ แต่ผมขอยืนถ่ายรูปเท่ห์ๆ แทนแล้วกันครับ

หรือแค่นั่งเฉยๆ ก็รู้สึกได้ถึงความผ่อนคลาย ข้างๆ รีสอร์ทเป้นป่าชายเลนที่มีความสมบูรณืมากๆ ครับ

ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหาที่พักที่ อ่าวนาง กระบี่ เราขอแนะนำที่นี่เลย พูนศิริ รีสอร์ท อ่าวนาง กระบี่ Poonsiri Resort Aonang แล้วเพื่อนๆ จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

ติดต่อสอบถามหรือจองห้องพักได้ที่

website : https://poonsiriresort.com
LINE : @poonsiritour
FB : https://www.facebook.com/PoonsiriResort
Tel : 075-656260, 095-038-8868 หรือ 087-4698190

หรือจะเช็คราคาห้องพัก หรือจองห้องพัก ผ่าน agoda ก็ได้นะครับ

รีวิว The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%

โดย

ออกเดินทาง

-

กุมภาพันธ์ 4, 2021

0

รีวิว The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้ ออกเดินทาง จะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับ The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1% จากแบนด์ The Ordinary สกินแคร์สัญชาติแคนาดา ราคาย่อมเยาว์ แต่คุณภาพเยี่ยมมากๆ แบนด์นี้เค้ามี Shop อยู่หลายสาขา กระจายตัวอยู่ทั่วโลก ได้แก่

Canada
United Kingdom
USA
Australia
South Korea
Hong Kong
Mexico
Netherlands

แต่ตอนนี้เพื่อนๆ ไม่ต้องบินไปซื้อไกลถึงต่างประเทศ เพราะว่า ร้านอินทูมายช็อป | IN TOMY SHOP ได้นำสินค้าแบนด์ The Ordinary มาจำหน่ายแบบพร้อมส่งให้เพื่อนๆ แล้ว ส่งแบบด่วน รวดเร็วทันใจ รับของภายใน 1-3 วัน เท่านั้น สินค้ามีหลากหลายให้เลือก เพื่อนๆ สามารถดูรายการสินค้าเพิ่มเติมได้จากลิงค์ข้างล่าง

www.intomyshop.net/product-category/theordinary/

มาถึงไฮไลท์ของวันนี้เราจะมารีวิวสินค้าตัวที่ขายดีที่สุดของแบนด์นั่นก็ คือ The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1% เดี๋ยวเราไปดูต่อกันว่าตัวนี้ดีอย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง

Niacinamide นั่นก็คือ วิตามิน B3 ซึ่งเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวเรามากๆ ได้แก่ ช่วยลดเลือนริ้วรอย ช่วยลดรอยแผลเป็น รอยดำ รอยแดง จากสิว ช่วยลดอาการระคายเคืองบนผิว ช่วยให้ผิวกระชับ เรียบเนียน และชุ่มชื่น อีกทั้งยังช่วยกระชับรูขุมขนและคุมความมันบนผิว จึงเหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะคนผิวมัน และผิวแพ้ง่าย

Zinc หรือสังกะสี เป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการ แต่เมื่อมาอยู่ในสกินแคร์ก็มีประโยชน์มากมายเช่นกัน ได้แก่ ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันของผิวหน้า ช่วยลดความมันบนใบหน้า ลดอาการอักเสบของผิว และยังช่วยลดปริมาณแบคทีเรีย P.acnes ซึ่งเป็นต้นเหตุของสิวอุดตัน

เมื่อนำ Niacinamide และ Zinc มาใส่ไว้ในสกินแคร์ The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1% จึงทำให้ได้คุณสมบัติที่ดีมากๆ อันได้แก่

ช่วยลดเลือนริ้วรอย
ช่วยลดรอยแผลเป็น รอยดำ รอยแดง จากสิว
ช่วยลดอาการระคายเคืองบนผิว
ช่วยให้ผิวกระชับ เรียบเนียน
ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น
ช่วยกระชับรูขุมขน
ช่วยลดการผลิตน้ำมันของผิวหน้า และควบคุมความมันบนใบหน้า
ลดอาการอักเสบของผิว
ช่วยลดปริมาณแบคทีเรีย P.acnes ซึ่งเป็นต้นเหตุของสิวอุดตัน
วิธีใช้ : ใช้ เช้า – เย็น
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมัน และผิวแพ้ง่าย

วิธีใช้ : ใช้ เช้า – เย็น
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมัน และผิวแพ้ง่าย

เพื่อนๆ ที่สนใจอยากลองใช้ สามารถสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลได้จากด้านล่างเลยครับ

ร้านอินทูมายช็อป | IN TOMY SHOP
LINE : @INTOMYSHOP
WEB : www.intomyshop.net
IG : The Ordinary Thailand

รีวิว หอม-ละ-เอย ก้านไม้หอมปรับอากาศ | ออกเดินทาง

โดย

ออกเดินทาง

-

มกราคม 28, 2021

0

สวัสดีเพื่อนๆ ออกเดินทางทุกคนครับ ออกเดินทางวันนี้พิเศษมากๆ เนื่องจากช่วงนี้อยู่บ้านตลอด ไม่ได้เดินทางเลยครับ การอยู่บ้านก็ดีเหมือนกัน ทำให้เราได้มีเวลาได้ดูแลบ้านอย่างจริงจัง จัดบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ตกแต่งบ้าน นอกจากนี้กลิ่นภายในบ้านก็เป็นเรื่องสำคัญมากๆ การที่บ้านหอมทำให้คนในบ้านสดชื่น รู้สึกดี กลิ่นที่ดีช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีอีกด้วย

วันนี้เราจึงจะมารีวิว ก้านไม้หอมปรับอากาศ แบนด์ หอม-ละ-เอย ของดีที่จะทำให้บ้านคุณหอม และสร้างบรรยากาศดี ๆ ให้คุณและคนในครอบครัว ต้องบอกก่อนเลยว่า เราเคยใช้ ก้านไม้หอมปรับอากาศ มาหลายยี่ห้อมากๆ มีทั้งราคาหลักสิบ หรือแม้กระทั้งราคาหลักพัน แต่ก็ไม่ค่อยถูกใจสักเท่าไร จนได้มาเจอ แบนด์ หอม-ละ-เอย บอกเลยว่า ของดีราคาไม่จำเป็นต้องแพง เรารู้จักแบนด์นี้เพราะเพื่อนซื้อให้เป็นของขวัญวันปีใหม่ ต้องขอบคุณเพื่อนคนนั้นมากๆ ที่ทำให้เรารู้จักกับ “หอม-ละ-เอย” เดี๋ยวเราไปดูดีว่า ก้านไม้หอมปรับอากาศ แบนด์ นี้ มีดียังไง

หอม-ละ-เอย ก้านไม้หอมปรับอากาศ
ปริมาณ : 50 ml.
ราคา : 285 บาท
วิธีใช้ : ใช้งานง่าย แค่เปิดขวด เสียบก้านไม้ แล้วตั้งทิ้งไว้ในห้อง ก้านไม้จะกระจายกลิ่นหอม ทั่วทั้งห้อง ซึ่งอยู่ได้นาน 1-2 เดือนเลย
กลิ่น : กลิ่นมีให้เลือกหลากหลาย เช่น ซากุระ ดอกฝ้าย แคนตาลูป มะลิซ้อน ตะใคร้ ลาเวนดอร์ เมล่อน มะม่วง+ส้มเขียวหวาน ดอกหอมหมื่นลี้ (กลิ่นโปรดของเรา เราใช้กลิ่นนี้อยู่) ฝน ลูกอม ยูคาลิปตัส และชาขาว

ข้อดี ของก้านไม้หอมปรับอากาศ แบนด์ หอม-ละ-เอย
– ราคาไม่แพง
– กลิ่นอยู่ได้นาน 1-2 เดือน
– มีกลิ่นให้เลือกหลากหลาย
– แพ็คเกจจิ้งสวย สามารถซื้อใช้เอง หรือเจะซื้อป็นของขวัญก็ดี
– ใช้งานง่าย
– ใช้ได้ทั้งในห้องน้ำ ห้องนอน ห้องรับแขก หรือส่วนอื่นๆ ภายในบ้าน

นอกจากนี้ หอม-ละ-เอย ยังมีสินค้าอื่น ๆ อีกด้วย เช่น สเปรย์หอมปรับอากาศ (Aroma Room Spray) และ ถุงหอม (Perfume Sachet)

หอม-ละ-เอย | สเปรย์หอมปรับอากาศ (Aroma Room Spray)

ข้อมูลเพิ่มเติม
✅ ก้านไม้หอม เหมาะสำหรับห้องที่ใช้งานเป็นประจำ กลิ่นจะกระจายความหอมตลอดเวลา ช่วยให้ผ่อนคลาย เพิ่มความสดชื่น ดับกลิ่นอับ เพิ่มความหอม

✅ สเปรย์ปรับอากาศ เหมาะกับ รถยนต์ หรือ ห้องที่ไม่ค่อยได้อยู่ หรือ ใช้เพิ่มความหอมคู่กับก้านไม้หอม ใช้งานได้นาน ฉีดใส่พรหม ผ้าม่าน ตุ๊กตา จะทำให้กลิ่นอยู่นานขึ้น

✅ ถุงหอม เหมาะกับพื้นที่ปิด ขนาดไม่ใหญ่มาก เช่น รถยนต์ ตู้เสื้อผ้า ลิ้นชัก ตู้เก็บของ กระเป๋าเดินทาง

หอม-ล-ะเอย | ถุงหอม (Perfume Sachet) — หอม-ละ-เอย | ถุงหอม (Perfume Sachet)

หากเพื่อนๆ สนใจสินค้า สามารถสั่งซื้อ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

หอม-ละ-เอย
FB : หอม-ละ-เอย
Line : @homlaoei
Shopee : hom_la_oei
LAZADA : Hom-La-Oei

รีวิว The Ordinary แต่ละสูตร

โดย

ออกเดินทาง

-

มกราคม 12, 2021

0

สวัสดีเพื่อนๆ ออกเดินทาง ทุกคนครับ วันนี้เรามาคุยกันเรื่องความสวย ความงามกันดีกว่าครับ เพราะความสวยรอไม่ได้ เราจะสวยไปด้วยกัน เราจึงทำรีวิวแบนด์ The Ordinary ให้ทุกคนครับ หวังว่าจะเป็นข้อมูลดีๆ สำหรับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าให้ตรงกับปัญหาของผิว ไม่ว่าจะเป็น สิว สิวอักเสบ สิวอุดตัน ฝา กระ จุดด่างดำ ริ้วรอย ผิวหน้ามัน ผิวหน้าแห้ง ผิวขาดน้ำ เดี๋ยวไปดูกันดีกว่าครับว่า แต่ละสูตรเหมาะกับใคร เหมาะกับผิวแบบไหน ใช้อย่างไร และมีคุณสมบัติอย่างไร

1. The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%

คุณสมบัติ : ช่วยลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน ปรับผิวเรียบเนียน ลดรอยแดงรอยดำจากสิว ควบคุมความมันบนใบหน้า ช่วยลดแบคทีเรียที่เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดสิว อีกทั้งยังช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้น
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : ใช้ เช้า – เย็น

2. The Ordinary Hyaluronic Acid 2% + B5

คุณสมบัติ : ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น เต่งตึง ปราศจากริ้วรอย ดูเรียบเนียน มีความชุ่มชื้น และเป็นตัวช่วยในการนำสารอาหารเข้าสู่เซลล์ผิวอีกด้วย
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : เช้า – เย็น

3. The Ordinary Multi-Peptide + HA Serum

คุณสมบัติ : ช่ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย ทั้งรอยตื้นและรอยลึก ช่วยลดรอยด่างดำ ความหมองคล้า และช่วยให้ผิวกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวแข็งแรง และยกกระชับผิว ปรับผิวเรียบเนียน อีกทั้งยังเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวอีกด้วย
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : เช้า – เย็น

4. The Ordinary Alpha Arbutin 2% + HA

คุณสมบัติ : ช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิว ฝ้า กระ จุดด่างดํา และทำให้ผิวขาวสว่างสดใส อีกทั้งยังทำให้หน้านุ่มชุ่มชื่น
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : เช้า – เย็น

5. The Ordinary Caffeine Solution 5% + EGCG

คุณสมบัติ : ช่วยลดอาการบวม และความหมองคล้ำบริเวณรอบดวงตา
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : ใช้เช้า – เย็น บริเวณรอบดวงตา ด้วยการนวดเบาๆ

6. The Ordinary AHA 30% + BHA 2% Peeling Solution

คุณสมบัติ : ช่วยผลัดเซลล์ผิวหน้า ทำให้ผิวสว่างกระจ่างใสและสีผิวสม่ำเสมอ ลดสิวอุดตันในรูขุมขน อีกทั้งยังช่วยลดริ้วรอยเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว ยกเว้นผิวแพ้ง่าย
วิธีใช้ : ใช้มาร์คหน้าครั้งละไม่เกิน 10 นาที แล้วล้างออก ไม่เกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

7. The Ordinary 100% Organic Cold Pressed Rose Hip Seed Oil

คุณสมบัติ : ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย ปรับผิวหน้าให้กระจ่างใส เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว ต้านการอักเสบ ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : ทาให้ทั่วใบหน้าวันละครั้งก่อนนอน หลังจากเซรั่มสูตรน้ำ

8. The Ordinary Azelaic Acid Suspension 10%

คุณสมบัติ : ลดเลือนรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิว จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใสขึ้น ลดสิวอุดตัน และยังช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า ที่สำคัญอ่อนโยนต่อผิวมาก
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : เช้า – เย็น

9. The Ordinary Salicylic Acid 2% Masque

คุณสมบัติ : ช่วยดึงสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน ลดสิวอุดตัน สิวเสี้ยน สิวหัวดำ ลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า ช่วยผลัดเซลล์ผิวหน้าทำให้ผิวสว่างกระจ่างใสและสีผิวสม่ำเสมอ กระชับรูขุมขน และทำให้ผิวดูเนียนเรียบ
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว ยกเว้นผิวแพ้ง่าย
วิธีใช้ : ใช้มาร์คหน้าครั้งละไม่เกิน 10 นาที แล้วล้างออก ไม่เกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

10. The Ordinary Vitamin C Suspension 23% + HA Spheres 2%

คุณสมบัติ : ช่วยให้ผิวขาวสว่างกระจ่างใส ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว ยกเว้นผิวแพ้ง่าย
วิธีใช้ : ใช้เวลากลางคืน

11. The Ordinary Natural Moisturizing Factors + HA

คุณสมบัติ : ช่วยให้ผิวแข็งแรงไม่แพ้ง่าย เพิ่มความนุ่มชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นแก่ผิว ทำให้ผิวสวยจากภายในสู่ภายนอก
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวบอบบางแพ้ง่าย
วิธีใช้ : เช้า – เย็น

12. The Ordinary Ascorbic Acid 8% + Alpha Arbutin 2%

คุณสมบัติ : ช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิว ฝ้า กระ จุดด่างดํา และทำให้ผิวขาวสว่างกระจ่างใส ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว ยกเว้นผิวแพ้ง่าย
วิธีใช้ : เช้า – เย็น

13. The Ordinary Argireline Solution 10%

คุณสมบัติ : ช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาและหน้าผาก
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : ใช้ เช้า – เย็น บริเวณหน้าผากและรอบดวงตา

14. The Ordinary Lactic Acid 10% + HA

คุณสมบัติ : ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวสว่างกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ และรอยสิวดูจางลง
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : ใช้วันละครั้งก่อนนอน

15. The Ordinary Retinol 1% in Squalane

คุณสมบัติ : ช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้รอยต่างๆ ดูตื้นขึ้น ปรับผิวให้เรียบเนียน กระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง หน้ากระจ่างใส สีผิวให้ดูสม่ำเสมอ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังสามารถช่วยลดการอักเสบของสิวได้อีกด้วย เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว ยกเว้นผิวแพ้ง่าย
วิธีใช้ : ใช้เวลากลางคืน

16. The Ordinary Vitamin C Suspension 30% in Silicone

คุณสมบัติ : ช่วยให้ผิวขาวสว่างกระจ่างใส ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว ยกเว้นผิวแพ้ง่าย
วิธีใช้ : ใช้เวลากลางคืน

17. The Ordinary Ascorbyl Glucoside Solution 12%

คุณสมบัติ : ช่วยให้ผิวขาวสว่างกระจ่างใส ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว ยกเว้นผิวแพ้ง่าย
วิธีใช้ : ใช้ เช้า – เย็น

18. The Ordinary Retinol 0.5% in Squalane

คุณสมบัติ : ช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้รอยต่างๆ ดูตื้นขึ้น ปรับผิวให้เรียบเนียน กระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง หน้ากระจ่างใส สีผิวดูสม่ำเสมอ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังสามารถช่วยลดการอักเสบของสิวได้อีกด้วย เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว ยกเว้นผิวแพ้ง่าย วิธีใช้ : ใช้เวลากลางคืน

19. The Ordinary Pycnogenol 5%

คุณสมบัติ : ช่วยรักษาฝ้า กระ และลดเลือนจุดด่างดำ (ม่ทำให้ผิวบาง ไม่ไวต่อแดด เพราะไม่มีกลไกการผลัดเซลล์ผิวใด ๆ ที่สำคัญราคาไม่แพง)
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : ใช้ เช้า – เย็น บริเวณที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ

20. The Ordinary Amino Acids + B5 คุณสมบัติ : ช่วยซ่อมแซมและบำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้น ผิวเด้งเต่งตึง อิ่มฟู นุ่มเนียนสุดๆ และยังช่วยให้ใบหน้าโกลว์ขึ้น กระจ่างใสดูสุขภาพดี อีกทั้งยังช่วยลดอาการคันจากการแพ้ของผิว รวมถึงลดรอยแดงจากสิวอีกด้วย
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : เช้า – เย็น

21. The Ordinary “Buffet” + Copper Peptides 1%

คุณสมบัติ : ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยแผลเป็นและจุดด่างดำ ช่วยกระชับรูขุมขน ช่วยเติมเต็มหลุมสิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวแข็งแรง และเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : ใช้ เช้า – เย็น

https://www.intomyshop.net/product/the-ordinary-buffet-copper-peptides-1/

22. The Ordinary Glycolic Acid 7% Toning Solution

คุณสมบัติ : ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ลดสิวอุดตัน เผยผิวกระจ่างใส แก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว และยังช่วยให้ผิวเรียบเนียนอีกด้วย
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว ยกเว้นผิวแพ้ง่าย
วิธีใช้ : ใช้เวลากลางคืน ไม่เกินวันละ 1 ครั้ง

23. The Ordinary Lactic Acid 5% + HA

คุณสมบัติ : ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวสว่างกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ และรอยสิวดูจางลง
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : ใช้วันละครั้งก่อนนอน

24. The Ordinary 100% Plant-Derived Squalane

คุณสมบัติ : ให้ความชุ่มชื้นและปกป้องผิว พร้อมคืนความนุ่มนวลให้แก่ผิว ไม่อุดตันรูขุมขน เป็นน้ำมันชนิดเดียวกับที่พบตามธรรมชาติในผิวของมนุษย์ อีกทั้งยังใช้ได้กับผมเพื่อเพิ่มความเป็นประกายเงางาม และปกป้องผมจากการถูกทำลาย
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : ใช้เพียง 1-2 หยด ทาให้ทั่วใบหน้า เช้าและเย็น หลังจากเซรั่มสูตรน้ำ

25. The Ordinary 100% Niacinamide Powder

คุณสมบัติ : ช่วยลดการเกิดสิว ลดรอยแดงรอยดำจากสิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน ปรับผิวเรียบเนียน อีกทั้งยังช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้น
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : ใช้ผสมกับเซรั่มสูตรน้ำ แล้วทาทั่วหน้าและลำคอ เช้า – เย็น ผสมกับ : Hyaluronic Acid 2% + B5, Natural Moisturizing Factors + HA, “Buffet” + Copper Peptides 1%, Matrixyl 10% + HA หรือ Argireline Solution 10%

26. The Ordinary Matrixyl 10% + HA

คุณสมบัติ : ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยให้ผิวกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวแข็งแรง และเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : ใช้ เช้า – เย็น

27. The Ordinary 100% Plant-Derived Hemi-Squalane

คุณสมบัติ : บำรุงเส้นผมให้เป็นประกายเงางาม และปกป้องผมจากการถูกทำลาย หรือใช้กับผิวหน้าเพื่อเพื่มความชุ่มชื้นและปกป้องผิว พร้อมคืนความนุ่มนวลให้แก่ผิว
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : ใช้ได้ทั้งหน้าและเส้นผม

28. The Ordinary 100% Organic Virgin Sea-Buckthorn Fruit Oil

คุณสมบัติ : ช่วยฟื้นฟูผิวคล้ำเสียสะสม ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ปลอบประโลม ให้ความชุ่มชื่นกับผิว เพิ่มความยืดหยุ่น และเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว อีกทั้งยังเหมาะกับผิวที่เพิ่งทำเลเซอร์อีกด้วย
เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวหลังทำเลเซอร์
วิธีใช้ : ทาวันละครั้งก่อนนอน

29. The Ordinary Squalane Cleanser

คุณสมบัติ : ทำความสะอาดใบหน้าจากเครื่องสำอางและสิ่งสกปรก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวอีกด้วย เหมาะกับ : ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ : บีบ The Ordinary Squalane Cleanser ลงบนฝ่ามือแล้วถูนวด เบาๆ หลังจากนั้นนำมา นวด ถู เบาๆ บนใบหน้าที่แห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำอุ่น

หากเพื่อน ๆ สนใจ ซื้อสินค้า สามารถคลิ๊กที่รูปภาพ / ชื่อของสินค้าได้เลยครับ
หรือจะ @LINE , FB , IG มาสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลก็ได้เช่นกันครับ
LINE ID : @INTOMYSHOP
FB : อิน ทูมาย ช็อป
IG : IN TOMY SHOP
www.intomyshop.net

รีวิวที่พักเขาหลัก | เขาหลักเบย์ฟรอนท์ รีสอร์ท [Khao Lak Bay Front Resort] | ออกเดินทาง

โดย

ออกเดินทาง

-

มกราคม 10, 2021

0

ฝากเพื่อนๆ ดู VDO ด้วยนะครับ

สวัสดีเพื่อนๆ ออกเดินทางทุกคนครับ ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะอยากไปเที่ยวเกาะสิมิลัน เราจึงเริ่มหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับกับเกาะสิมิลัน การเดินทาง และที่พัก สำหรับการมาเที่ยวเกาะสิมิลันสามารถพักได้ 2 ที่ คือ ภูเก็ต กับ เขาหลัก แต่พักเขาหลักจะดีกว่าเพราะอยู่ใกล้กับท่าเรือทับละมุ ซึ่งเป็นท่าเรือสำหรับเดินทางไปเกาะสิมิลัน โดยโรงแรมในเขาหลักใช้เวลาเดินทางไปที่ท่าเรือทับละมุไม่เกิน 20 นาที เท่านั้น แต่วันนี้เราไม่ได้มารีวิวทริปสิมิลันนะ เราจะมารีวิวที่พักเขาหลักกันครับ

ออกเดินทาง เลือกพักรีสอร์ทในเขาหลัก ที่มีชื่อว่า เขาหลักเบย์ฟรอนท์ รีสอร์ท | Khao Lak Bay Front Resort จุดเด่นของรีสอร์ทนี้ คือ ด้านหน้าติดชายหาด ส่วนด้านหลังติดภูเขา มีความเป็นธรรมชาติสูง ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และได้พักผ่อนอย่างแท้จริง เราพักกันที่นี่ทั้งหมด 4 วัน 3 คืน

เดี๋ยวออกเดินทางจะค่อยๆ พาเพื่อนๆ ไปเยี่ยมชมความสวยงามของรีสอร์ทเขาหลักแห่งนี้ครับ มาเริ่มกันตั้งแต่หน้ารีสอร์ทกันก่อนนะครับ เราสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติตั้งแต่ประตูเขารีสอร์ท

เมื่อเราผ่านประตูทางเข้ามาเราจะมาเจอกับ รีเซฟชั่น ที่มีน้องพนักงานที่น่ารักค่อยตอนรับ และค่อยบริการเช็คอินห้องพัก

ดำเนินการเอกสารเช็คอินเรียบร้อย เราก็ค่อยๆ เดินตามน้องที่จะพาเราไปที่ห้องพัก ห้องพักของที่นี่มีทัังหมด 4 แบบ คือ Beach Front Bungalow, Delux Seaview Bungalow, Deluxe Room, และ Standard Room

เราเลือกห้องพักแบบ Delux Seaview Bungalow เพราะชอบดีไซน์ของห้อง สำหรับราคาต้องบอกก่อนว่าแล้วแต่ช่วงเวลานะครับ เราแนะนำให้เพื่อนๆ เช็คผ่าน AGODA ได้เลย เราทิ้งลิงค์ไว้ให้ข้างล่างนี้นะครับ

ก่อนไปดูห้องพักแบบต่างๆ เดี๋ยวเรามาชมบรรยากาศรอบๆ รีสอร์ทกันก่อนดีกว่า ว่าจะสวยเหมือนที่ผมบอกไว้หรือเปล่าครับ

สระว่ายน้ำ

สำหรับสระว่ายน้ำของที่นี่มี 2 สระด้วยกัน ทั้ง 2 สระ มีสระเล็กสำหรับเด็กด้วย เล่นน้ำฟินเลย

ต่อไปผมจะพาเพื่อนๆ มาดูห้องแต่ละแบบกันนะครับ

Beach Front Bungalow

เป็นห้องที่ดีที่สุดของทางรีสอร์ท ตัวห้องพักจะอยู่ด้านหน้าสุดติดกับชายหาด สามารถเห็นวิวชายหาด และทะเลได้อย่างสวยงาม ห้องมีขนาดใหญ่ 45.20 ตารางเมตร สิ่งอำนวยตวามสะดวกในห้องครบครันมากๆ ที่สำคัญมีอ่าง Jacuzzi ขนาดใหญ่ให้ท่านได้แช่ตัวอย่างผ่อนคลาย สบายอารมณ์

Delux Seaview Bungalow

สำหรับห้อง Delux Seaview Bungalow เป็นห้องที่มีความใหญ่โต มีขนาดถึง 45.20 ตารางเมตร ห้องน้ำกว้าง หลังคาใช้แสงธรรมชาติทำให้ห้องน้ำมีความโล่ง โปร่ง สบาย ที่สำคัญมีโซฟาตัวใหญ่ไว้นั่งเล่น ผ่อนคลาย relax อีกด้วย

Deluxe Room

สำหรับห้อง Deluxe Room จะเป็นตึก 2 ชั้นที่อยู่ตรงกลางของรีสอร์ท มี 2 วิว ด้วยกัน คือ วิวสวน และวิวสระว่ายน้ำ ขนาดของห้องก็ใหญ่พอประมาณ ขนาด 38.20 ตารางเมตร ห้องสวยไม่มีที่ติ

Standard Room

มาถึงห้องแบบสุดท้ายนั้นก็ คือ ห้องแบบ Standard Room ซึ่งเป็นห้องน้องเล็กสุดของที่นี่ ตัวห้องมาในขนาด 36.6 ตารางเมตร บอกเลยว่าห้องไม่เล็กเลย กำลังพอดี สิ่งอำนวยความสะดวกก็จัดมาให้เต็มๆ เช่นกัน

ต่อไปมาถึงเรื่องอาหารการกินของที่นี่กันบ้าง บอกเลยว่ามาถ้าพักที่นี่ไม่ต้องออกไปไหนเลย เพราะเค้ามีบริการอาหารเช้า เที่ยง และอาหารเย็น ที่สำคัญรสชาติของอาหารอร่อยมากๆ และราคาไม่แพง หรือใครชอบดื่มแอลกอฮอล์เค้าก็มีให้บริการทั้ง เบียร์ ไวน์ แม้กระทั้งค็อกเทล

อาหารเช้า
อาหารเช้าของที่นี่จะเป็นแบบ บุฟเฟ่ต์ (ยกเว้นช่วงแขกไม่เยอะ อาหารเช้าจะเป็นแบบ อลาคาร์ท) เดี๋ยวไปดูกันเลยครับ

อาหารเที่ยงและอาหารเย็น

สำหรับอาหารเที่ยงและอาหารเย็นของที่นี่มีหลากหลายเมนู อร่อย และราคาไม่แพง สำหรับเมนูแนะนำของที่นี่จะมี ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ปลากะพงราดพริกสามรส กุ้งซอสมะขาม ต้มยำกุ้ง และไอศครีมทอด

บาร์และเครื่องดื่ม

สำหรับบาร์และเครื่องดื่มนั้นอยู่ที่สระว่ายน้ำ โดยที่นี่มีให้บริการ ทั้งซอฟดริ้ง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล เบียร์ ไวน์ คอลเทล

และไฮไลท์สำคัญ ของ Khao Lak Bay Front Resort | เขาหลักเบย์ฟรอนท์ รีสอร์ท ก็คือ การนั่งชมพระอาทิตย์ที่ทั้งโรแมนติก และสวยงาม

ข้อมูลการติดต่อ
Khao Lak Bay Front Resort | เขาหลักเบย์ฟรอนท์ รีสอร์ท
พิกัด : https://goo.gl/maps/EZda66wcwE1GduNF6
?FB : Khaolak Bayfront Resort
? : m.me/KhaolakBayfrontResort
☎️ : 076 485 641
? : info@khaolakbayfront.com

กด LIKE และ FOLLOW แฟนเพจ Fackbook ออกเดินทาง ไว้ เพื่อรอลุ้นห้องพักแบบฟรี ๆ จากเราได้เลย
Facebook : https://www.facebook.com/okdentang

ฝากเพื่อนๆ ติดตามช่องทางอื่นๆ ด้วยนะครับ

Youturb : https://bit.ly/34xGVya
IG : www.instagram.com/okdentang

Twitter : www.twitter.com/okdentang

แล้วเราจะ ” ออกเดินทาง ” ไปด้วยกันครับ

ที่พักพัทยากลาง โรงแรม Flipper House Pattaya | ฟลิปเปอร์ เฮ้าส์ พัทยา [ออกเดินทาง]

โดย

ออกเดินทาง

-

มกราคม 5, 2021

0

ที่พักพัทยากลาง โรงแรม Flipper House Pattaya | ฟลิปเปอร์ เฮ้าส์ พัทยา [ออกเดินทาง] — Flipper House Pattaya

สำหรับเพื่อนๆ ที่จะไปเที่ยวพัทยา หรือไปทำธุระที่พัทยา และกำลังหาที่พักที่อยู่ใจกลางเมือง อยู่ใกล้เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยาบีช ราคาไม่แพง มีที่จอดรถ และมีสระว่ายน้ำ ออกเดินทางขอแนะนำโรงแรมนี่เลยครับ
Flipper House Pattaya | ฟลิปเปอร์ เฮ้าส์ พัทยา ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยา ใกล้กับเซ็นทรัล และไม่ไกลจากชายหาดพัทยากลาง ทุกครั้งที่ออกเดินทางมาทำธุระ หรือมาเที่ยวพัทยา จะเลือกพักโรงแรมนี้ตลอด

จุดเด่นของโรงแรม

ห้องพักสวย สะอาด ราคาไม่แพง
มีสระว่ายน้ำ และบาร์ ที่จะทำให้เพื่อนๆ ได้พักผ่อน และผ่อนคลายอย่างเต็มที่
ทำเลดีอยู่ใจกลางพัทยา และไม่ไกลจากเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยาบีช
มีที่จอดรถ สะดวก สบาย
ไม่ไกลจากชายหาดพัทยากลาง อยากให้เพื่อนๆ ลองมาเที่ยวดู พัทยากลางตอนนี้ไม่เหมือนก่อนแล้ว สะอาดมากๆ สวยมากๆ เดินเล่นชิวมากๆ

ข้อมูลโรงแรม Flipper House Pattaya | ฟลิปเปอร์ เฮ้าส์ พัทยา

ราคาเริ่มต้น 600 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า)
ที่อยู่ : 213/2 ซอย 7 ถนนเลียบหาดพัทยา เมืองพัทยา ชลบุรี 20260
Google Map : https://g.page/FLIPPER-SOI-7?share

สอบถามห้องพัก หรือจองห้องพัก

FB : Flipper House Pattaya
E-mail : house@flipperhotels.com
Website : www.flipperhotels.com/flipper_house
☎️ 038-361667-71
? 086-3748637

จองโรงแรมผ่าน agoda

เดี๋ยวออกเดินทางจะพาเพื่อนๆ ไปชมโรงแรมกันดีกว่าครับ ว่าจะถูกใจเพื่อน ๆ หรือเปล่า

เริ่มจากเข้ามาที่โรงแรมก็จะเจอป้ายขนาดใหญ่ของโรงแรม

เมื่อเดินเข้ามาในตัวตึก ก็จะเจอล็อบบี้ของโรงแรงแรม ที่มีความกว้างโล่ง โปร่ง สบาย โดยตัวของโรงแรมจะประกอบด้วย 2 ตึก ที่เชื่อมต่อกัน

เดินเข้ามาอีกนิดจะพบกลับรีเซฟชั่น สำหรับเช็คอิน

เดี๋ยวเราไปดูห้องพักกันบ้างว่าจะสวยงาม น่าพัก น่านอนหรือเปล่า

ห้องสุพีเรียร์ (Superior) โรงแรม Flipper House Pattaya

ขนาด: 26 sq.m
เครื่องปรับอากาศ
เครื่องทำน้ำอุ่น
โทรทัศน์ดาวเทียม/เคเบิล
น้ำดื่มบรรจุขวด (ฟรี)
มินิบาร์
ตู้เย็น
ฝักบัวอาบน้ำและอ่างอาบน้ำ
ตู้นิรภัย
ชุดโฟชา สำหรับนั่ง

ห้องจูเนียร์ สวีท (Junior Suite) โรงแรม Flipper House Pattaya

ขนาด: 39 sq.m มี 1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก และ 1 ห้องน้ำ
ชุดโฟชา สำหรับนั่ง ขนาดใหญ่
มีเคาร์เตอร์ครัว และโต๊ะทานข้าว
เครื่องปรับอากาศ
เครื่องทำน้ำอุ่น
โทรทัศน์ขนาดใหญ่ ดาวเทียม/เคเบิล
น้ำดื่มบรรจุขวด (ฟรี)
มินิบาร์
ตู้เย็น
ฝักบัวอาบน้ำและอ่างอาบน้ำ
ตู้นิรภัย

มาถึงไฮไลท์สำคัญของโรงแรมแห่งนี้ นั่นคือ สระว่ายน้ำที่อยู่บนดาดฟ้า มีให้เพื่อนๆ ได้ใช้บริการกันถึง 2 สระ แถมยังมีบาร์อีกด้วย เพื่อนๆ สามารถเล่นน้ำชิวๆ สลับกับการจิบค็อกเทลฟินๆ ตอนเย็นๆ บรรยากาศดีมากๆ

ขอพาเพื่อนๆ ย้อนกลับมาที่ล็อปบี้ของโรงแรม ด้วยเราเข้าพักช่วงคริสมาสต์ ทางโรงแรมได้ติดตั้งต้นคริสมาสต์ ขนาดใหญ่สวยงามไว้ให้เพื่อนๆ ได้ถ่ายรูปกันด้วย ในแต่ละเทศกาลก็จะมีการตกแต่งแตกต่างกันออกไป

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ตรงส่วนล็อปบี้ยังมีบริการชา กาแฟ และขนมไว้ค่อยให้บริการแขกที่เข้าพักกันแบบฟรี ๆ อีกด้วย

สำหรับอาหารเช้า ปกติจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ แต่ถ้าช่วงที่มีแขกเข้าพักน้อย จะเป็นอาหารแบบชุดแทน อย่างในรูปเป็นชุดอเมริกันเบรคฟัส หรือเพื่อนๆ จะเลือกชุดอาหารไทยก็ได้ครับ

สุดท้ายสำหรับเพื่อนๆ ที่ขับรถยนต์มาไม่ต้องกังวลเพราะโรงแรมมีที่จอดรถไว้ค่อยให้บริการด้วยนะครับ

ที่จอดรถ โรงแรม Flipper House Pattaya — Flipper House Pattaya

ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่อ่านจนจบรีวิว นะครับ แล้วเราจะออกเดินทางไปด้วยกัน

วัดห้วยปลากั้ง เชียงราย [ออกเดินทาง]

โดย

ออกเดินทาง

-

ธันวาคม 19, 2020

0

ออกเดินทางทริปนี้ จะพาเพื่อนๆ ไปไหว้พระขอพร กันที่ วัดห้วยปลากั้ง เชียงราย ความพิเศษของที่นี่ คือ การผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างศิลปะจีนกับศิลปะล้านนา

? พบโชคธรรมเจดีย์ เจดีย์เอกของทางวัดที่มีความสูงถึง 9 ชั้น มีรูปทรงที่แปลกตาหาชมไม่ได้ที่อื่นนอกจากที่นี่ เป็นศิลปะแบบจีนผสมกับแบบล้านนาได้อย่างวิจิตรงดงาม

? องค์เจ้าแม่กวนอิม ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความสูงประมาณ 79 เมตร

ทำบุญ ไหว้พระ 9 วัด | อยุธยา – อ่างทอง [ออกเดินทาง]

โดย

ออกเดินทาง

-

ธันวาคม 13, 2020

0

ออกเดินทางทริปนี้ เอาใจสายบุญ เราจะไปไหว้พระ ทำบุญ เสริมดวง เสริมบารมี และเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตกันที่ อยุธยา – อ่างทอง โดยทริปนี้เป็นทริปแบบสบาย ๆ ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน จะมีวัดไหนบ้างไปดูกันเลยครับ

1. วัดใหญ่ชัยมงคล

อยุธยา : จุดเด่นของวัดได้แก่ เจดีย์องค์ใหญ่ ที่เชื่อกันว่าได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด

พิกัด : https://goo.gl/maps/KeHfaD8VugAGDBWX9

2. วัดม่วง

อ่างทอง : จุดเด่นของวัดได้แก่ พระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

พิกัด : https://goo.gl/maps/ap4vaSUY1aPdF8Z9A

3. วัดสังกระต่าย

อ่างทอง : จุดเด่นของวัดได้แก่ สถานที่ท่องเที่ยว Unseen แห่งใหม่ในอ่างทอง ตัวโบสถ์เก่าแก่มีต้นโพธิ์ ขนาดใหญ่ขึ้นปกคลุมรอบโบสถ์ 4 ต้น รวมถึงปกคลุมภายในโบสถ์ด้วย

พิกัด : https://goo.gl/maps/uTF8JBBRmm3Jzpqb6

4. วัดไชโยวรวิหาร

อ่างทอง : จุดเด่นของวัดได้แก่ พระมหาพุทธพิมพ์ หรือที่เรียกว่า หลวงพ่อโต เป็นฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ มีพุทธลักษณะที่โดดเด่นกว่ายุคสมัยที่ไม่ยึดแนวอุดมคติตายตัว พระพักตร์และพระกรรณจึงเหมือนคนธรรมดามากกว่า มีริ้วรอยย่นของ สบง จีวร ชัดเจน

นอกจากจะเป็นวัดสำคัญของอำเภอไชโยแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประชาชนรู้จักวัดนี้เป็นอย่างดี ได้แก่ “พระสมเด็จเกษไชโย” พระเครื่องที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณนานัปการ

พิกัด : https://goo.gl/maps/vBbjr6i7R1fEmY65A

5. วัดขุนอินทประมูล

อ่างทอง : จุดเด่นของวัดได้แก่ องค์พระนอนมีพุทธลักษณะที่งดงาม พระพักตร์ยิ้มละไม สงบเยือกเย็น

พิกัด : https://goo.gl/maps/GLmwm39HtTKxCJtL8

6. วัดต้นสน

อ่างทอง : จุดเด่นของวัดได้แก่ พระราชสุวรรณโมลี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธศาสนิกชนอ่างทองและใกล้เคียงเคารพนับถือมาก มีพุทธศิลป์สวยงามเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง และมีโบสถ์ศิลปะอยุธยา ประดิษฐานหลวงพ่อดำพระพุทธรูปศิลปะสมัยอยุธยาอายุกว่าร้อยปี วิหารพระพุทธชินราช ประดิษฐานพระพุทธชินราช (จำลอง) และมีสมเด็จพระศรีเมืองทองเงิน พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่กลางแจ้งเด่นเป็นสง่าอยู่บริเวณประตูทางเข้าวัด ให้พระพุทธศาสนิกชนได้แวะสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล

พิกัด : https://goo.gl/maps/EY2SoXQTbp7TaCxK6

7. วัดพนัญเชิงวรวิหาร

อยุธยา : จุดเด่นของวัดได้แก่ เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปไตรรัตนายก (หลวงพ่อโต หรือซำปอกง) พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอยุธยาที่ได้รับความเคารพบูชาทั้งในหมู่คนไทยและคนจีนมาอย่างยาวนาน

พิกัด : https://goo.gl/maps/MR16PoyvZib4wWMF6

8. วัดกษัตราธิราชวรวิหาร

อยุธยา : จุดเด่นของวัดได้แก่ พระประธานในพระอุโบสถที่มีแท่นฐานผ้าทิพย์ปูนปั้น ฝีมือประณีตงดงาม ใบเสมาของพระอุโบสถเป็นใบเสมาคู่แกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจง

พิกัด : https://goo.gl/maps/nNmc17xAaHsymGbR9

9. วัดไชยวัฒนาราม

อยุธยา : จุดเด่นของวัดได้แก่ วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดที่แม่หญิงการะเกด พูดถึงในละคร บุพเพสันนิวาส อยู่บ่อยครั้ง จนออเจ้าทั่วพระนครต้องตามไปดูให้เห็นกับตา ว่าสวยดังคำที่แม่หญิงกล่าววาจาไว้หรือไม่

พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ เป็นปรางค์ประธานของวัด ยอดขององค์ปรางค์ ทำเป็นรัดประคดซ้อนกัน 7 ชั้น บนสุดเป็นทรงดอกบัวตูม รูปแบบคล้ายกับปรางค์ในสมัย อยุธยาตอนต้น และระเบียงคตภายในระเบียงคตประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ที่เคยลงรักปิดทองจำนวน 120 องค์ เหมือนเป็นกำแพงเขตศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันโดนตัดเศียรไปเกือบหมด เหลือเพียง 2 องค์ ที่ยังมีเศียรอยู่

พิกัด : https://goo.gl/maps/5AuiY5Kv9xP6P5DS6

เที่ยวแม่กำปอง 3 วัน 2 คืน แบบไม่มีรถส่วนตัว [ออกเดินทาง]

โดย

ออกเดินทาง

-

พฤศจิกายน 19, 2020

0

เที่ยวแม่กำปอง 3 วัน 2 คืน แบบไม่มีรถส่วนตัว [ออกเดินทาง]

ออกเดินทางทริปนี้จะพาเพื่อนๆ ไปสัมผัสอากาศเย็นๆ และใช้ชีวิตกันแบบช้าๆ ที่ แม่กำปอง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่กลางป่าใหญ่ ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร จึงทำให้ที่นี่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี สำหรับช่วงเวลาที่เราออกเดินทางเป็นช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิอยู่ที่ 18-23 องศา เท่านั้น

ตามที่เกริ่นไว้แล้วว่าทริปนี้ของเราจะเดินทางด้วยรถสาธารณะ เพราะฉะนั้นเราต้องวางแผนกันดี ๆ สักหน่อย เริ่มต้นออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบิน ถึงสนามบินเชียงใหม่ประมาณ 8 โมงเช้า แล้วรีบเหมารถ taxi ในราคา 150 บาท ไปที่จุดจอดรถตู้ไปแม่กำปอง อยู่ที่ตลาดวโรรส (กาดหลวง)โดยเราจองเที่ยวรถรอบ 09.30 น. ไว้ เพื่อความชัวร์แนะนำให้เพื่อนๆ จองตั๋วรถไว้ล่วงหน้านะครับ จะได้ไม่พลาดการเดินทาง สำหรับช่องทางการจองรถตู้จะจองผ่านทาง Facebook นะครับ ส่วนราคา 150 บาท/เที่ยว

Facebook รถตู้ชียงใหม่-หมู่บ้านแม่กำปอง
รอบรถเชียงใหม่ – แม่กำปอง

07.40 น.
09.30 น.
11.40 น.
14.30 น.

รอบรถแม่กำปอง – เชียงใหม่

09.20 น.
11.20 น.
13.20 น.
16.00 น.

สำหรับการเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ที่นี่ถนนดีครับและไม่ค่อยคดเคี้ยวเท่าไร ใครที่เมารถไม่ต้องกังวลสามารถมาได้ครับ โดยรถจะไปจอดที่ศูนย์การเรียนรู้แม่กำปองซึ่งอยู่กลางหมู่บ้าน แล้วค่อยเดินไปที่พักครับ

และในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านแม่กำปอง ซึ่งก็เป็นเวลาประมาณ 11 โมงเช้า ความรู้สึกแรกหลังจากลงมาจากรถคือ สัมผัสได้ถึงความเย็น จากนี้เราต้องเดินไปที่โฮมสเตย์เพื่อเช็คอินครับ สำหรับคืนแรกเราจะพักกันในหมู่บ้านครับ โดยเราเลือกพักกันที่ บ้านพักลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง แม่กำปอง ราคา 1,500 บาท รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 คน เราเลือกพักที่นี่เพราะอยู่ใกล้ร้านอาหาร และเป็นจุดศูนย์กลางของหมู่บ้าน

ห้องพัก บ้านพักลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง แม่กำปอง

ห้องน้ำ บ้านพักลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง แม่กำปอง

วิวจาก บ้านพักลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง แม่กำปอง

แต่ถ้าจะให้เราแนะนำที่พักในหมู่บ้านเราแนะนำเป็น บ้านป้อหลวง แม่หลวง น่าจะสงบเงียบและบรรยากาศดีกว่าบ้านพักลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง แม่กำปอง มาก ๆ ส่วนราคาลองถามไปที่เพจ FB เลยนะครับ

ที่พักส่วนใหญ่ของที่นี่จะติดริมลำธาร แต่จะมีความเป็นส่วนตัวมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับโลเคชั่น ถ้าอยากอยู่ใกล้แหล่งของกินก็พักแถวๆ ร้านลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง Coffee shop แต่ถ้าชอบความเงียบสงบก็เลยวัดไปหน่อยครับ

หลังจากที่เช็คอินห้องพัก และพักจนหายเหนื่อยต่อไปเราจะไปกินข้าวเที่ยงโดยเรากินกันที่ร้านไส้อั่วแม่นิ่ม เมนูของที่นี่ก็จะมี ใส้อั่ว ปีกไก่ทอด หมูทอด ลาบหมูคั่ว ผักเชียงดาผัดไข่ ขนมจีนน้ำเงี๊ยว ต้มแซ่บซี่โครงหมู และส้มตำ

อิ่มแล้วต้องเดินย่อยนะครับ ต่อไปเราจะเดินไปจิบกาแฟกันที่ร้านระเบียงวิวนะครับเพื่อชมวิวของหมู่บ้าน ซึ่งวิวนี้เป็นวิวที่เราเห็นบ่อยๆ ตามหน้า Facebook เพราะใครที่มาแม่กำปองจะต้องมาที่นี่ทุกคน

เดินกันต่ออีกนิด เราเลือกที่จะเดินไปที่น้ำตกแม่กำปอง ซึ่งจะมีทางลัดเดินตามลำธารไปเรื่อยๆ ซึ่งเส้นทางนี้จะไม่ชันเท่ากับเส้นทางหลัก ใช้เวลาเดินไม่นานประมาณ 15 นาที น้ำตกมีความสวยงาม เราอยู่ที่นี่สักพัก ถ่ายรูปนั่งชิวสักพักแล้วเดินทางกลับไปที่หมู่บ้าน ระหว่างทางมีดอกไม้สวยๆ ให้ถ่ายรูปด้วย และเราก็ได้เจอกับดอกแม่กำปอง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน

ดอกไม้สวยๆ ที่พบได่ที่แม่กำปองสำหรับอาหารเย็นของวันนี้เราฝากท้องกันที่ร้านค้าเล็กๆ เราเลือกที่จะซื้ออาหารกลับไปกินที่ที่พัก อาหารเรามีข้าวโพด มันเผา ใส้อั่ว ส้มตำ อร่อยมากๆ ความฟิน คือ กินของร้อนๆ กับอากาศเย็นๆ

สำหรับวันแรกก็ประมาณนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ เจอกันวันพรุ่งนี้ครับ

วันที่สอง เราตื่นกันปกติไม่เช้ามาก ไม่สายมาก แล้วไปกินอาหารเช้าของโฮมสเตย์ที่จัดเตรียมไว้ให้ โดยเราต้องไปกินกันที่ ร้านลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง Coffee shop สำหรับอาหารเช้า คือ ข้าวต้ม กับกาแฟ 1 แก้ว อิ่มแล้วก็ออกไปถ่ายรูปที่ด้านหน้าร้านที่เป็นจุดเช็คอินของทุกคนที่มาแม่กำปองต้องมาถ่ายรูปกันที่นี่ แต่ลืมบอกไปที่นี่เข้ามีเจ้าถื่นนะครับ เป็นน้องหมาที่พยายามจะเข้าเฟรมถ่ายรูปกับทุกคน

จุดเช็คอินแม่กำปองกาแฟของร้านลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง Coffee shop เราว่าเฉยๆ เราเลยไปจิบกาแฟกันต่อที่ ร้าน Ylife ไว้ลาย ซึ่งเป็นร้านของที่พักบ้านอิงดอย แม่กำปอง เราว่ากาแฟของที่นี่รสชาติดี แุถมปลูกเมล็ดกาแฟและคั่วเมล็ดเองอีกด้วย เราเลยซื้อเมล็ดกาแฟติดมือกลับมาด้วย ราคาไม่ถูกมากๆ 200 กรัม ราคา 120 บาท กาแฟอาราบิกา คั่วกลาง

ต่อจากนี้เราจะไปเที่ยววัดกัน ซึ่งเป็นวัดแห่งเดียวของแม่กำปอง โบสถ์ของที่นี่สร้างมาจากไม้ และด้วยความที่ที่นี่หนาวเย็นตลอดปี และมีความชื่นมากทำให้หลังคาของที่นี่จะมีมอสขึ้น มีความสวยงามไปอีกแบบ และที่นี่ยังมีโบสถ์กลางน้ำอีกด้วย

หลังจากอิ่มบุญไหว้พระขอพรเสร็จแล้วเราก็เดินกลับไปที่พักเพื่อเก็บของและเช็คเอ๊าซ์ เพราะเราจะย้ายที่พักกันครับ
เช็คเอ๊าซ์เรียบร้อยแล้วเราก็มาเติมพลังกันก่อน สำหรับมื้อเที่ยงของวันนี้เราจะกินอาหารกันที่ ร้านข้าวซอยกลอยใจ โดยเมนูเด็ดของที่นี่คือข้าวซอยนั่นเอง

กินข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว เราเดินมาที่ศูนย์การเรียนรู้แม่กำปองเพื่อเรียกรถไปที่ที่พักของคืนนี้ ค่ารถ 60 บาท ที่พักอยู่ก่อนถึงหมูบ้านประมาณ 1.5 กิโลเมตร จริงๆ สามารถเดินไปได้แต่ด้วยทางที่ค่อนข้างชัน และมีรถขึ้นลงตลอดเวลา เราจึงตัดสินใจเรียกรถไปที่พักแทน

คืนนี้เราจะพักกันที่บ้านพักริมลำธาร นอนฟังเสียงน้ำไหลชิวๆ กับที่พักที่มีชื่อว่า บ้านพักริมน้ำใบเฟิร์น แม่กำปอง เจ้าของหน้ารักใจดี ลืมบอกไปว่าแถวนี้ไม่มีร้านอาหารนะ เพราะฉะนั้นให้เพื่อนๆ เตรียมอาหารเย็นให้เรียบร้อย แต่ถ้าใครขี้เกียจหาซื้อของที่โฮมสเตย์ก็มีมาม่าจำหน่ายนะครับ มีขนม มีเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นราคาปกติไม่ใด้ชาร์จ

เช็คอินและได้ห้องพักเรียบร้อย กิจกรรมต่อไป คือ นั่งโง่ๆ ริมลำธาร ง่ายๆ คือ ไม่ต้องทำอะไรแค่นั่งเฉยๆ ก็ฟินแล้วเพราะบรรยากาศของที่นี่ดีมากๆ เหมือนหลุดมาอีกโลกหนึ่ง แบบนี้ที่เข้าเรียกว่าธรรมชาติบำบัด และได้ชาร์จแบตอย่างเต็มที่

สำหรับอาหารมื้อเย็นเราได้เตรียมข้าวซอยไก่สำเร็จรูปที่มาในแบบคัพ เพิ่งเคยกินครั้งแรกอร่อยดี สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิ์

วันที่สาม สวัสดีตอนเช้า สำหรับอาหารของเช้านี้คือข้าวต้มเหมือนกับที่พักแรก แต่เพิ่มเติม คือ มีไข่ และมีขนมปังให้ด้วย สามารถปิ้งทานได้เลย อิ่มแล้วก็พักตามอัธยาสัยต่อ นั่งเล่น นั่งชิว และวันนี้จะลงไปเช็คความเย็นของน้ำ

อาหารเช้า บ้านพักริมน้ำใบเฟิร์น แม่กำปอง

เวลาแห่งความสุขหมดเร็วมากๆ เราเช็คเอ็าซ์โฮมสเตย์ตอนเที่ยง แล้วรถของโฮมสเตย์ก็มาส่งเราที่ตัวหมู่บ้านแม่กำปอง

สำหรับมื้อเที่ยงของวันนี้ฝากท้องกันที่ร้านแม่กำปองป้ายแดง เมนูที่กิน คอหมูย่าง ปีกไก่ทอด และส้มตำ รสชาติใช้ได้

เรายังพอมีเวลาเหลือก่อนที่จะเดินทางกลับ เราจะไปจิบกาแฟกันที่ ร้านปิรันย่า coffee ร้านนี้เป็นร้านที่กาแฟดีที่สุดของแม่กำปอง เป็นร้านเล็กๆ ที่อยู่ในซอย แต่คุณภาพของกาแฟไม่เล็กเหมือนขนาดร้านนะครับ เพราะกาแฟที่นี่เค้าปลูกเอง คั่วเอง ความคลุมมคุณภาพทุกขั้นตอนจนได้เมล็ดการแฟที่มีคุณภาพ และที่สำคัญที่นี่มี กาแฟไซฟ่อน และกาแฟกริปให้บริการด้วย ครับ

ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับเชียงใหม่แล้วเรากลับรถรอบ 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย และต้องเดินทางกลับกรุงเทพต่อ โดยเครื่องบินเวลา เครื่องออก คือ 18.45

ทริปนี้เป็นทริปที่ชอบมากๆ ได้ใช้ชีวิตแบบช้าๆ ได้กินอาหารอร่อย ได้จิบกาแฟรสชาติดี ถ้ามีโอกาสออกเดินทางจะกลับมาเที่ยวที่นี่อีกแน่นอน ขอบคุณเพื่อนๆ ที่อ่านจนจบนะครับ ฝากเพื่อนๆ กด Like FB แฟนเพจออกเดินทางด้วยนะครับ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าครับ

ฝากเพื่อนๆ กด like และกด แชร์ ด้วยนะครับ
“แล้วเราจะออกเดินทางไปด้วยกัน”

Facebook : https://www.facebook.com/okdentang
Youturb : https://bit.ly/34xGVya
IG : https://www.instagram.com/okdentang
https://www.okdentang.com